อภิปรายไม่ไว้วางใจล่าสุด หมอชลน่าน เปิดยุทธการเด็ดหัวสอยนั่งร้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ 8 ปี ประยุทธ์ ล้มเหลว บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาดจนเสียหายอย่างร้ายแรงทุกด้าน ความผิดพลาดทั้งหมด พรรคร่วมรัฐบาล เป็นนั่งร้านสนับสนุน อภิปรายไม่ไว้วางใจล่าสุด ของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งนำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย ผู้นำพรรคผ่ายค้าน ที่ได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กำลังเป็นที่จับตามองของคอการเมือง
โดย วันนี้ (19 ก.ค.65) ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลวันแรก โดยมี นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม เมื่อเวลา 09.40 น. “นพ.ชลน่าน” ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้เริ่มอภิปรายเปิดญัตติ ตอนหนึ่งว่า ตอลดระยะเวลา 8 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บริหารประเทศในฐานะนายก ผิดพลาด ล้มเหลว ไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับประเทศ ไม่สามาถรสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และความกินดีอยู่ดีให้กับประชาชนได้เลย
ในทางตรงกันข้าม กลับกลายเป็นต้นตอที่ทำให้ปัญหาที่มี มีความซับซ้อน ขยายวงกว้างและรุนแรงยิ่ง ทั้งปัญหาด้านเศรษฐกิจ การเมือง อาชญากรรม ทุจิรต คอร์รัปชั่น ประชาชนในชาติแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่ายขยายวงกว้างมากกว่าเดิม โดยเฉพาะปัญหาทุจริต ในยุคพลเอก นับว่ามีสถิตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยแพร่กระจายไปทุกอณูของสังคม
เป็นยุคที่ทุจิรตเพื่องฟู ความเจรญเติบโตทางเศรษฐกิจรั้งท้ายของอาเซียน ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่ ประยุท ไม่มีความซื้อสัตเป็นที่ประจักษ์ ไร้ภูมิปัญญา ไร้องค์ความรู้ ไร้ความสามรถ ไร้จิตสำนึก คาดาภาวะควมเป็นผู้นำที่จะเป็นหัวหน้ารัฐบาล เป้นผู้นำที่พิการทางความคิด ยึดติดแต่อำนาจ ไม่เคารพหลักนิติรัฐ นิติธรรม ไร้คุณธรรมจริยธรรม ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ผิดพลาด บกพร่อง เสียหายอย่างร้ายแรงทุกด้าน
ซัดเดือด รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาล608
หมอชลน่าน ยังกล่าวเมื่อครั้งที่ได้ลงพื้นที่แล้วมีชาวบ้านมา กล่าวกับตัวเองว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาล608 อมโรคป่วย แล้วเราจะปล่อยให้รัฐบาลเช่นนี้เข้ามาบริหารประเทศหรือ ตลอดเวลาที่ผ่านมาการบริหารราชการของรัฐบาลชุดนี้ทำให้เศรษฐกิจพังพินาศ มีการก่อหนี้ที่เกือบชนเพดานแทบทุกปี ทำให้สถานะการคลังเข้าขั้นวิกฤติ ความสามารถการแข่งขั้นลดลง สมรรถนะด้านเศรษฐกิจลดลง13 ลำดับ ขณะที่ประสิทธิภาพภาครัฐลดลง11ลำดับ
หนำซ้ำความผิดพลาดทั้งหมดได้กระทำการโดยให้พรรคร่วมรัฐบาล ผู้คนแวดล้อมเข้ามามีส่วนร่วม เป็นนั่งร้านสนับสนุนท่านต่อไป นั่งร้านที่เกิดขึ้นขณะนี้เปรียบเสมือนเป็นเห็บเหา ปรสิต ร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่คอยสูบเลือดประเทศและประชาชนด้วยความอิ่มเอมของตนเองและพวกพ้อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องถูกกำจัดออกไป
“นั่งร้านที่เกิดขึ้นขณะนี้ เปรียบเสมือนเป็นเห็บเหาปรสิตร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่คอยสูบเลือดประเทศและพี่น้องประชาชนเพื่อความอิ่มเอมของตนเองและพวกพ้อง สิ่งเหล้านี้ต้องถูกกำจัดออกไป” นพ.ชลน่าน กล่าวบางช่วงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันนี้ พร้อมกับเน้นย้ำว่า หมดเวลาของ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว ไม่ไว้วางใจและพวดพ้องและรัฐมนตรีอีก 10 คน บริหารราชการแผ่นดินอีกต่อไป
จากนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การอภิปรายครั้งนี้หมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา ตนและรัฐมนตรีได้ยินแต่เรื่องเดิมๆ แต่ก็พร้อมให้ความกระจ่างในทุกประเด็น อยากขอให้ทุกคนละทิ้งฐิถิ อคติ หรือแม้กระทั่งผลประโยชน์ส่วนตัว ส่วนตนไว้ข้างหลัง เอาประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง อย่างกรณี โควิด 2 ปีที่ผ่านมา ถือว่าประสบควาสำเร็จในการรับมือได้เป็นอย่างดี แม้จะโดนต่อว่า กลไกการแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ถูกต้อง แต่หลายประเทศเขาก็ทำ ติดตามดูเขาบ้าง ทหารอยู่ตรงไหน พลเรือนอยู่ตรงไหน สาธารณสุขอยู่ตรงไหน หมออยู่ตรงไหน การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในการจัดตั้ง ศบค.ถือเป็นการทำงานแบบบูรณาการ และต่างประเทศก็นำไปใช้เป็นแบบอย่าง
ความขัดแย็ง 10 กว่าปีมาแล้ว ตนไม่ใช่ตัวการที่ทำให้ขัดแย้ง ย้อนกลับไปดูพฤติกรรม ย้อนกลับไปดูความผิด ย้อนกลับไกดปูคนที่ติดคุก ถึงแม้เราจะมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่าง ตนไม่ใข่คนที่ต้องการให้แบ่งพวก แบ่งฝ่าย นายกยังกล่าวถึง 3 เรื่องที่ต้องการพลิกโฉมประเทศไปข้งาหน้า เรื่องแรกประกาศวิสัยทัศน์ของประเทศไทย มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน 2. ผลักดันยุทธาสตร์ชาิต 20 ปี ปฏิรูปในทุกมิติ และ นโยบายไทยแลนด์? 4.0 ที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม รวมถึงรื่งอวิจัยและพัฒนาด้วย
ขณะที่ประเด็น หมอชลน่าน กล่าวตอนเปิดอภิปราย เปรียบรัฐบาลชุดนี้ เป็นรัฐบาล 608 อมโรคป่วย พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงประเด็นนี้ โดยขอให้เกียรติคนกลุ่มนี้ด้วยเพราะเป็นประชากรสูงอายุ ต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เราได้รับความยกย่องชื่นชม และเปิดประเทศได้อย่างยั่งยืน วันนี้เราเปิดประเทศได้มากขึ้นตามลำดับ รายได้เข้าประเทศมากขึ้น ระบบเศรษฐกิจดีขึ้น “ผมไม่ได้พูดว่าตัวเองเก่งที่สุด ท่านเป็นหมอฉลาดกว่าผม แต่โชคดีที่ผมไม่ไปรักษากับท่าน ถ้าอยากได้รับเกียรติ์ ก็ต้องให้เกียรติ์ผู้คนอื่น”
“ถ้าโจมตี ให้ร้าย ส่อเสียด ดูแล้วไม่เป็นสุภาพบุรุษ ผมไม่อยากฟังในสภานี้ แต่ผมให้เกียรติสภา ให้เกียรติประธาน และสมาชิกทุกคน ผมจำเป็นต้องชี้แจง เพราะทั้งหมดไม่ใช่ข้อเท็จจริง และไม่มีข้อมูลที่ถูกต้อง ผมทราบดีว่าท่านคงชื่นชมหลายคนที่เคยทำงานมาก่อน ว่าดีกว่าผม แต่ไม่เป็นไร ก็เอากลับมาให้ได้ก็แล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง